ชลประทานเชียงใหม่ยันสถานการณ์น้ำปิงยังเอาอยู่ ชี้ปริมาณผ่านเขตเมืองไม่เกิน 455 ลบ.ม.ต่อวินาที ยังไม่ล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ สั่งการทุก ปตร. พร่องน้ำ เพื่อรับน้ำเหนือ เผย ปตร.ท่าวังตาล รับได้ทันทีอีก 1 ล้านคิว
นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ (ผคป.เชียงใหม่) กล่าวว่า จากสถานการณ์พายุดีเปรสชั่นที่ส่งผลกระทบกับจังหวัดเชียงใหม่ช่วงวันที่ 2-3 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดฝนตกหนักทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดจนลุ่มน้ำปิงด้วย ณ วันที่ 4 ส.ค. ที่สถานีวัดน้ำ P. 103 บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิงถนนวงแหวนรอบ 3 ทิศเหนือของตัวเมืองเชียงใหม่ วัดการไหลของน้ำในลำน้ำปิง วัดได้ 144.7 ลบ.ม.ต่อวินาที ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประตูระบายน้ำที่ควบคุมน้ำในเขตเมือง ทำการพร่องน้ำเหนือประตูระบายน้ำท่าวังตาลลง
“ขณะนี้ที่ ปตร.ท่าวังตาล ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ได้พร่องน้ำให้อยู่ที่ +300.8 ซึ่งจะสามารถรับน้ำจากทางด้านเหนือได้อีก 1 ล้าน ลบ.ม. นอกจากนั้นได้มีการเพิ่มการระบายด้านท้ายน้ำให้เป็น 81 ลบ.ม. ต่อวินาที เพื่อจะรักษาระดับน้ำปิงช่วงผ่านเขตเมืองไม่ให้สูงมากจนเกินไป โดยจะไม่ให้เกิน 445 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งเกินกว่านี้จะทำให้น้ำปิงไหลเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มหรือนอกคันกั้นน้ำที่บางช่วงยังอยู่ในลักษณะฟันหลอ ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำปิง” ผคป.เชียงใหม่ แจง
นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผคป.เชียงใหม่ กล่าวต่ออีกว่า น้ำปิงทางตอนเหนือของเมืองเชียงใหม่ยังมีระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไหลลงมาเติมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ยังควบคุมได้ ยังไม่มีจัดใดที่ล้นตลิ่ง นอกจากนี้ คป.เชียงใหม่ ยังได้สั่งการให้ ปตร. ด้านท้าย ปตร.ท่าวังตาล ลงไป คือ ปตร.ดอยน้อย ปตร.แม่สอย ให้เพิ่มการระบายน้ำ เพื่อให้น้ำส่วนเกินส่วนน้ำได้ไหลลงสู่เขื่อนภูมิพลให้เร็วขึ้น ซึ่งหากพิจารณาปริมาณน้ำเหนือที่ไหลเข้ามาเติมในพื้นที่เมืองเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง ทางสำนักงานชลประทานที่ 1 ร่วมกับ โครงการชลประทานเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังสามารถที่จะบริหารจัดการน้ำในลำน้ำปิง ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำต่างๆ ทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำปิงได้
