วันที่ 11 พ.ย. 62 ปีนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือวันเพ็ญเดือนยี่ (ยี่เป็ง) ของชาวเชียงใหม่ จะเป็นวันแรกของเทศกาลลอยกระทง วันที่ชาวเชียงใหม่เรียกกันติดปากว่า “วันกระทงเล็ก” วันนี้จะมีการลอยกระทงเป็นจำนวนมากโดยมีแม่น้ำปิงเป็นจุดศูนย์กลางในการลอยกระทง ทั้งนี้การลอยกระทงจะมีต่อไปอีก 1 วันในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 12 พ.ย. 62 วันที่ชาวเชียงใหม่เรียกกันติดปากว่า “วันกระทงใหญ่” เพราะมีกิจกรรมสำคัญและเป็นไฮไลท์ของยี่เป็งเชียงใหม่คือ “ขบวนแห่กระทงใหญ่” ถัดจากวันกระทงใหญ่ไปแล้ว กระทงที่ทั้งชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวลอยลงสู่แม่น้ำปิง จะกลายเป็น “ซากกระทง” เกือบทั้งหมดจะลอยไปติดค้างบริเวณหน้าประตูระบายน้ำท่าวังตาล ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่
ในการจัดการซากกระทงในปีนี้ ได้มีการประชุมเตรียมการไปก่อนหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 62 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานเชียงใหม่ โดยมี นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานที่ประชุม เป็นการประชุมเตรียมการในการจะกำจัดขยะในลำน้ำปิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เหลือจากงานเทศกาลลอยกระทง มีกว่า 20 หน่วยงานที่จะร่วมบูรณาการในการจัดเก็บและทำความสะอาดลำน้ำปิง บริเวณหน้าประตูระบายน้ำท่าวังตาล ในวันที่ 14 พ.ย. 62เป็นคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่
นายคมสัน สุวรรณอัมพา รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่จังหวัดเชียงใหม่จะมีการรณรงค์การใช้กระทงเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยรณรงค์ให้เป็นกระทงที่ทำจากใบตอง ทำจากหยวกกล้วย เป็นกระทงที่ไม่ใช้โฟม 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้มีการขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนร่วมกับทางจังหวัดเชียงใหม่ในการที่จะใช้วัสดุธรรมชาติทำกระทงเป็นประจำอย่างต่อเนื่องในทุกปี สำหรับปีนี้มีการรณรงค์เพิ่มมาอีกอย่างคือ การงดใช้กระทงที่ทำจากขนมปัง เนื่องจากกระทงขนมปัง เมื่อนำไปลอยและแช่น้ำจะยังคงรูปกระทง และเมื่อแช่น้ำส่งกลุ่มเหม็นรุนแรงมาก และเกิดฟองรอบข้างกระทงเป็นฟองในลักษณะเดียวกับฟองที่เกิดขึ้นกับอาหารบูดเน่า ซึ่งจะส่งผลให้น้ำเน่าบูดไปด้วย
“ส่วนเรื่องของการเก็บขยะจากกระทงจังหวัดเชียงใหม่จะใช้พลังจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจในทุกกลุ่ม รวมทั้งอาสาสมัครต่างๆ ทั้ง อปพร. อสม. กลุ่มพลังต่างๆ มาช่วยเก็บขยะจากกระทงร่วมกันให้เร็วที่สุด เพื่อพื้นที่ท้ายน้ำที่รับน้ำจาก ปตร.แม่น้ำปิง จะได้ไม่เกิดปัญหามลพิษทางน้ำ คาดว่าปีนี้ปริมาณซากกระทงจะมีราว 50 ตัน น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ปี 2561 ซึ่งเก็บซากกระทงได้ราว 70 ตัน โดยจะบูรณาการอาศัยรูปแบบการจัดการเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ทำการจัดเก็บซากกระทงให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน” รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
นายคมสันฯ ยังฝากขอความร่วมมือยังพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ว่า เพื่อช่วยกันร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยกันทะนุถนอมแม่น้ำปิงไม่ให้ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมต่างๆ ที่พวกเราทุกคนร่วมกันสร้าง ขอความร่วมมือลอยกระทงครอบครัวละ 1 กระทง เช่นเดียวกันกับกลุ่มต่างๆ ที่มาด้วยกัน อาจรวมๆ กันลอยเพียงแค่กระทงเดียว ซึ่งจะส่งผลให้คนที่ลอยร่วมกันได้รวมใจเป็นหนึ่งเดียวด้วย หากทุกคนต่างช่วยกันทำเช่นนี้ ปริมาณซากกระทงในลำน้ำปิงหรือแม่น้ำต่างๆ ก็จะลดน้อยลงได้
สำหรับสถิติจำนวนซากกระทงบริเวณหน้าประตูระบายน้ำท่าวังตาล ซึ่งจัดเก็บข้อมูลโดยโครงการชลประทานเชียงใหม่ พบว่า ในปี พ.ศ. 2559 มีปริมาณซากกระทง จำนวน 300 ตัน ปี พ.ศ. 2560 มีปริมาณซากกระทง 120 ตัน และปี พ.ศ. 2562 มีปริมาณซากกระทงที่เก็บได้ราว 70 ตัน
ส่วนปี 2562 นี้ ณ วันนี้ วันที่ 11 พ.ย. 62 ในส่วนรับผิดชอบของโครงการชลประทานเชียงใหม่ อำนวยการโดย นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการการโครงการฯ ได้นำเครื่องเครื่องจักรเข้าประจำในพื้นที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล พร้อมเตรียมพร้อมในการจัดเก็บซากกระทงที่จะมาลอยติดหน้าประตูน้ำ โดยที่ขณะนี้กระทงที่ลอยมาติดยังมีไม่มาก ต้องรออีก 2-3 วัน จะมีปริมาณเพิ่มมากยิ่งขึ้น และคาดว่าในปีนี้ซากกระทงจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา