ป.ป.ส. ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 5 ภูธรเชียงใหม่ สภ.เวียงแหง สแกน 9 เป้าหมาย ขยายผลรวบเครือข่ายยาเสพติดได้เพิ่มอีก 4 ราย ทรัพย์กว่า 2.5 ล้าน เลขาธิการฯ ย้ำมีมาตรการปราบยาเสพติดภาคเหนือบนอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 28 มิถุนายน 2566 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เผยถึง ปฏิบัติการปิดล้อมจับกุมเครือข่ายนักลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยเป็นการร่วมมือของ สำนักงาน ป.ป.ส. ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ สถานีตำรวจภูธรเวียงแหง ปิดล้อมผู้ต้องหาจำนวน 9 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.เวียงแหง อ.เชียงดาว และ อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 ราย ยึดทรัพย์กว่า 2.5 ล้านบาท
การปิดล้อมครั้งนี้นี้สืบเนื่องจาก เมื่อห้วงพฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติด น.ส.ชนิกานต์ คำเขื่อน พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 20,200 เม็ด ที่ด่านตรวจยาเสพติดถาวรแม่ทา จ.ลำพูน ต่อมา เจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.5 ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 สืบสวนขยายผลจนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยสามารถจับกุม นายชยันห์กริช โหราชิต นายประดุล จันทร์สมวงค์ และ ออกหมายจับ นายอะเลโพะ จะอือ และนายเฉลิมพล จะอือ และผู้ร่วมขบวนการอีก 11 ราย
จนเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 สำนักงาน ป.ป.ส. ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ สถานีตำรวจภูธรเวียงแหง ได้สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น จับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จำนวน 5 เป้าหมาย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จำนวน 3 เป้าหมาย ต.แม่สาว อ.แม่อาย จำนวน 1 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 4 ราย คือ นางสาววันเพ็ญ ทาลี่,นายจะจุสี จะที, นางสาวแอหมี่ จะรู และนายสุวิชัย ศิริเลิศเดชา ยึดทรัพย์สิน เป็นเงินสด รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทองรูปพรรณ รวมมูลค่ากว่า 2,552,570 บาท
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.ได้เน้นย้ำว่าสำนักงาน ป.ป.ส. มีมาตรการปราบปรามกลุ่มผู้ค้าและเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีสถานการณ์ปัญหายาเสพติดรุนแรง และมีผลกับสถานการณ์ยาเสพติดภายในประเทศไทย ซึ่งการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดที่ภาคเหนือตอนบนไม่ให้ยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศได้จะสามารถลดปัญหาการค้าและแพร่ระบาดยาเสพติดในภาพรวมของประเทศไทยลงได้ โดยหากมีการจับกุมผู้กระทำผิดได้ จะดำเนินการขยายผลอย่างเข้มข้น เพื่อให้จับกุมได้ทั้งเครือข่าย เพื่อลงผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษอย่างเด็ดขาด
