“บิ๊กน้อย” เปิดประชุมใหญ่สามัญพรรครวมแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2566 ที่เชียงใหม่ประกาศความพร้อมสู่ศึกเลือกตั้ง หวัง 25 ที่นั่ง ส.ส. เป็นพรรคเล็กยันไม่ใช่พรรคสำรองหรือแยกขั้วใคร พร้อมทำงานเพื่อประเทศ เชื่อหลังเลือกตั้งมีเปลี่ยนแปลง พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพื้นที่เชียงใหม่ มี “สุภคิน อดีตนายก ทม.ต้นเปา” “พิพัฒน์พงศ์ สจ.แดง เชียงดาว” “สุริยนต์ สจ.เต้ สันป่าตอง”
วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ห้องประชุม ราชพฤกษ์ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา “บิ๊กน้อย” หัวหน้าพรรครวมแผ่นดินเป็นประธานเปิดประชุมใหญ่สามัญพรรครวมแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2566 ได้เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติมที่ยังขาดอยู่รวมทั้งการสร้างความเข้าใจให้ความรู้ต่างๆ แก่สมาชิก เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งหน้า รวมถึงการเปิดตัวผู้สมัครที่พร้อมกว่า 40รายเวลานี้ด้วย ทั้งนี้นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นมาที่พรรครวมแผ่นดินได้ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิดพรรคการเมืองที่รวบรวมผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากไปด้วยประสบการณ์ทั่วประเทศ แม้ที่มาจะแตกต่างกัน แต่ก็มีอุดมการณ์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ มุ่งลดความขัดแย้งทางการเมือง ปรองดอง และพร้อมจะประสานทำงานกับทุกฝ่าย เพื่อรวบรวมสรรพกำลังความรู้ ความสามารถเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติ พร้อมหารายได้เข้าประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวิตส่งเสริมสิทธิเด็กและยกระดับบทบาทของสตรี รวมถึงส่งเสริมการส่งออกนำมาตรฐานเกษตรกรของไทยสู่อุตสาหกรรมเกษตรที่สมบูรณ์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผ่านระบบโลจิสติกส์ที่เพียบพร้อมด้วยมาตรฐานคุณภาพระดับสากลซึ่งตลอดเวลา 5 เดือนเต็มในการขับเคลื่อนพรรครวมแผ่นดิน เพื่อเป็นตัวแทนของภาคประชาชนในการพัฒนาประเทศไปทุกมิติองคาพยพ ถึง ณ วันนี้ทางพรรคได้ดำเนินการสร้างรากฐานอันมั่นคงที่พร้อมเต็มเปี่ยมในการที่จะทำงานรับใช้ภาคประชาชนอย่างเต็มที่ ดังคำขวัญของพรรครวมแผ่นดินที่กล่าวไว้ว่า “พัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน” ด้วยเหตุนี้ ทางพรรครวมแผ่นดินจึงได้ดำเนินการจัดการประชุมใหญ่สามัญพรรครวมแผ่นดินครั้งนี้
หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน กล่าวถึงนโยบายของพรรคว่า นโยบายหลักมีด้วย 3 ด้าน คือ การเมืองการปกครอง, เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และสร้างสังคมอันดีงาม สามัคคี ปรองดอง ซึ่งจริงๆ แล้วพรรคมีนโยบายครอบคลุมทุกส่วนแต่ยกเรื่องหลักเด่นๆ 10 ข้อ ให้ความเชื่อมั่นที่จะต้องทำ ได้แก่ 1. เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง 2. พัฒนาระบบการศึกษา เรียนดี เรียนฟรี มีงานทำ 3. ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา 4. พัฒนาระบบเกษตรกรรม (smart Farmer) พรบ.สินค้าเกษตร 5. เพิ่มเบี้ยสำรองเลี้ยงชีพผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง และอสม. 6. กระจายอำนาจรัฐสู่ชุมชน 7. สนับสนุนสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม 8. สร้างความปรองดอง ลดความขัดแย้ง ส่งเสริมประชาธิปไตย 9. ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และ10. ส่งเสริมสินค้าชุมชนทั่วประเทศ พัฒนาสินค้า SMEs
ทั้งนี้พรรครวมแผ่นดินจึงขอร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมกันเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองยุคใหม่อย่างสร้างสรรค์หลังการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นและนำเสนอนโยบายที่มั่นใจว่าทำได้จริงๆ ทันทีเพื่อประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดี เศรษฐกิจรุ่งเรือง ประชาธิปไตยงดงาม พร้อมร่วมกันเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองยุคใหม่อย่างสร้างสรรค์
“วันนี้ประชุมใหญ่ก่อนท่านประยุทธ์เปิดตัวไม่ได้เกี่ยวอะไร เป็นกำหนดที่มีอยู่แล้ว เราเป็นพรรคเล็กก็จริงแต่เราพร้อมทำงานมีบุคลากรพร้อมในทุกด้านที่จะทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน ซึ่งการใช้บัตร 2 ใบ เราอาจมีโอกาสน้อยอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องไปใช้สิทธิ์ให้มาก เลือกคนที่เราต้องการ เพราะเป็นหน้าที่ของประชาชน ที่ต้องช่วยกันใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แล้วเราจะได้รัฐบาลที่ดี ก็ขอโอกาสพรรครวมแผ่นดิน ถึงพรรคใหม่ก็จริง แต่คนของเรามีคุณภาพและดูแลประชาชนได้จริง เราไม่ได้เป็นพักสำรองไว้ให้ใครเราตั้งใจมาทำงานสร้างความรักในประเทศแม้จะอยู่พลังประชารัฐ เศรษฐกิจไทย เราก็ไม่เคยคิดตั้งพรรครวมแผ่นดินเพื่อมาแบ่งขั้วทางการเมือง” หัวหน้าพรรครวมแผ่นดินกล่าว
“รวมแผ่นดินเป็นพรรคเล็ก ไม่ใช่พรรคใหญ่ แต่ตั้งเป้าว่าจะได้ ส.ส. 25 คน โดยเฉพาะ ส.ส.เขต ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ มีโอกาสได้น้อย เนื่องจากต้องได้ถึง 390,000 คะแนน จึงจะได้ ส.ส. 1 คน ก็หวังประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด เพื่อสร้างโอกาสให้พรรคเล็กมากขึ้น และได้รัฐบาลที่ดีในอนาคต สุดท้ายฝาก พรรครวมแผ่นดิน ไว้ในใจประชาชน เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครมีโอกาสได้เข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และได้รับใช้ประชาชนต่อไป” พล.อ.วิชญ์ฯ กล่าว
ทั้งนี้บรรยากาศในการประชุมใหญ่สามัญพรรครวมแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2566 เป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้เข้าร่วมรับฟังมากกว่า 1,000 คน โดยมีอดีตดารานักแสดงชื่อดังที่มาร่วมเปิดตัวลงสมัครในงานด้วยคือ ทูน หิรัญทรัพย์ ตฤณ เศรษฐโชค รณฤทธิชัย คานเขต และเล็ก ไอศูรย์.ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ มีการแนะนำบางส่วน จาก 11 เขต อาทิ นายสุภคิน วงศ์ษา อดีตนายกเทศมนตรีเมืองต้นเปา อ.สันกำแพง นายพิพัฒน์พงศ์ เดชา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เชียงใหม่ อ.เชียงดาว เขต 1 และ นายสุริยนต์ ปันทะนะ ส.อบจ. อ.สันป่าตอง เขต 1 เป็นต้น