“หนุ่ม นเรศ” ลงพื้นที่ 4 อำเภอ มอบข้าวสารน้ำใจช่วย ปชช. เตรียมลุยสร้างแหล่งน้ำการเกษตรคลุมพื้นที่

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ ต.สันป่าตอง จอมทอง ดอยหล่อ และ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เพื่อมอบข้าวสารถุงขนาด 5 กิโลกรัม ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่

พร้อมด้วย นายทนงศักดิ์ วีระ ส.อบจ.เชียงใหม่ อ.ดอยเต่า คณะทำงาน รมช.เกษตรฯ นายอุ่นเรือน คำภิโล นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ จ.เชียงใหม่ นายคำมูล กันทา ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ อ.สันป่าตอง ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมคณะ โดยในแต่ละพื้นที่มีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น อสม. ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการแจกข้าวสารให้แก่ประชาชน

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ กล่าวพบประประชาชนที่มารับมอบข้าวสาร ว่า ที่ผ่านมาในช่วงเริ่มต้นการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ได้ลงพื้นที่เนื่องจากต้องทำงานที่กระทรวงฯ และมีมาตรการในการควบคุมการระบาดโดยมีนโยบายไม่ให้ออกตรวจราชการ ให้ทำงานอยู่ที่กระทรวงฯ ช่วงนี้เริ่มผ่อนปรนมาตรการในช่วงแรกจึงมีโอกาสที่ออกมาพบปะ เยี่ยมเยือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้

“จึงถือโอกาสที่จะได้มาพบปะพี่น้องประชาชนครั้งนี้ได้มีการประสานกับผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น ในการที่จะมามอบสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชน ด้วยช่วงนี้สถานการณ์ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ต่อไปก็จะเป็นระยะที่ 2 ที่จะมีการผ่อนคลายได้อีก การระบาดของโรคทั้งประเทศและภาคเหนือดีขึ้นตามลำดับ มีผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง เชียงใหม่เองก็ไม่มีผู้ติดเชื้ออยู่ในโรงพยาบาลแล้ว เนื่องจากปฏิบัติการเชิงรุกที่พวกเราทุกคนร่วมกันทำทั้งประเทศ แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแต่พี่น้องประชาชนทุกคนก็ยังต้องมีมาตรการในการระวังโรคต่อเนื่องต่อไปด้วย อย่างเช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อไม่ให้โรคนี้กลับมาระบาดอีกครั้ง”

“แม้ว่ายังมีโรคระบาดแต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ปากท้องของพี่น้องประชาชน ซึ่งเกือบจะทุกคนต้องถือปฏิบัติตามนโยบายรัฐในการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ไม่ได้ทำงานหรือไม่มีงานทำ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือจากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลบ้างแล้ว สำหรับที่มาวันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวด้วยความรักความห่วงใย ถึงแม้ขอที่เอามาวันนี้จะไม่มาก ก็ขอให้ถือว่าเป็นน้ำใจจากลูกจากหลานที่นำมามอบให้” นายนเรศฯ กล่าว

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งที่เป็นอยู่ขณะนี้ รวมถึงเมื่อสถานการณ์คลี่คลายไปแล้ว คือการต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องขอขอบคุณ พี่น้อง อสม. ในทุกพื้นที่ที่ทำงานอย่างหนักในการควบคุมโรค ถัดจากนี้ก็เข้าสู่การฟื้นฟูทั้งระบบ ในภาคการเกษตรก็จะมีการชดเชยเช่นกันคาดว่าจะเริ่มได้รับในช่วงกลางเดือนนี้เป็นต้นไป ต่อจากนั้นนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลในการที่จะฟื้นฟูประเทศทุกระบบก็จะออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกันเพื่อให้ประเทศขยับต่อไปได้ ที่สำคัญที่สุดคือพี่น้องในทุกพื้นที่ที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความสามัคคีกัน เพื่อช่วยกันรังสรรค์สังคมให้น่าอยู่ต่อไป

“ที่อยากจะบอกต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำ ทั้งฝายสบร้อง ทั้งอ่างเก็บน้ำแม่วาง รวมทั้งที่อื่นๆ ที่เป็นโครงการแล้วด้วยนั้น แม้ว่าในช่วงแรกที่จะต้องมีการตัดงบประมาณเพื่อส่งกลับไปให้ช่วยในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 แต่ได้มีการประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทำให้ไม่ได้ถูกตัดไปทั้งหมดทีเดียวโครงการเกี่ยวกับน้ำต่างๆ ยังจะขยับได้บ้างในส่วนที่จะทำได้ในช่วงต้นของโครงการ อย่างเช่นฝายสบร้องก็จะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นในเร็วๆ นี้ ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่วางก็จะมีการเริ่มเปิดหัวงานและทำการศึกษา EIA ที่สำคัญได้มีการประสานกับผู้นำในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ จะมีการวางแผนในการจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรให้ครอบคลุมพื้นที่ให้ได้ต่อไป” นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในที่สุด