วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

เชียงใหม่พบเข้าข่ายรายที่ 7 หญิงจีนมีไข้-ไอ รอผลแล็ปยืนยัน “โคโรนา” หรือไม่

25 ม.ค. 2020
2070

สสจ.เชียงใหม่ ยันในจีนป่วย “โคโรนา” จริง 830 ราย ตายแค่ 26 คน เชียงใหม่เจอ 7 รายเข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรค 6 รายตรวจไม่พบเชื้อ รายที่ 7 รอผลแล็ป พร้อมแนะนำประชาชนและนักท่องเที่ยวให้รู้จักวิธีป้องกันโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (nCOV-2019) จากเมืองอู่ฮั่น

วันที่ 25 มกราคม 2563 นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง สถานการณ์โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันในประเทศจีน จำนวน 830 ราย เสียชีวิต 26 ราย สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ จากระบบเฝ้าระวังพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) 7 ราย ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (nCOV-2019)

ส่วนผู้ป่วยรายที่ 7 เป็นหญิงชาวจีน อายุ 38 ปี มีอาการไข้ ไอ เข้ารับการรักษาในห้องแยกความดันลบในโรงพยาบาลมหาราช เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2563 กำลังรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (EOC) กรณีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (nCOV-2019) จากเมืองอู่ฮั่น เมื่อวันที่ 22 มกราคม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางปฏิบัติ

ในกรณีที่มีการพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคเพิ่มขึ้น หรือพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และดำเนินการจัดเตรียมทรัพยากรในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากเมืองอู่ฮั่น โดยเน้นการคัดกรอง ณ ช่องทางเข้าออกประเทศที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพิ่มการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชน คลินิก ร้านขายยา ทุกแห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ หากพบผู้ป่วยสงสัยจะดำเนินการส่งต่ออย่างปลอดภัย เพื่อทำการรักษาผู้ป่วยในห้องแยกความดันลบในโรงพยาบาลที่มีความพร้อมและมีมาตรฐาน

ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แนะนำประชาชนและนักท่องเที่ยว ว่า โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ สามารถป้องกันได้ ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ รับประทานอาหารปรุงสุกร้อน (กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ)

สำหรับผู้ที่เดินทางไปประเทศจีน หรือระหว่างเดินทางในต่างประเทศ ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือที่มีชีวิต และการสัมผัสโดยไม่ใช้ถุงมือ หากภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น พบมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปประเทศจีน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร.053-211048-50 ต่อ 110