เรียกถกปล่อยโคมลอยยี่เป็ง ตะลึงแม่ริมขอปล่อยเกือบ 2 หมื่น!!!

05 พ.ย. 2018
2274

ปกครองจังหวัดเชียงใหม่เรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น พื้นที่ไข่แดง 8 อำเภอ ซักซ้อมแนวปฏิบัติการปล่อยโคม วิทยุการบินร่วมแจมวอนให้ทำตามกฎหมายทั้งการขออนุญาตและขนาดโคม ปลัดจังหวัดเชียงใหม่แย้มข้อมูลพื้นที่ขอปล่อยโคถึงจังหวัดมีแค่ 2 อำเภอ ตะลึงแม่ริมขอปล่อยเกือบ 2 หมื่นลูก ส่วนอำเภอเมืองยังตระเวนตรวจสถานที่ปล่อยเบื้องต้นยื่นมาแล้ว 22 แห่ง

วันที่ 5 พ.ย. 61 เวลา 13.30 น. ที่ห้องลีลาวดี ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องประกาศจังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ จัดโดยที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย นายศรัณยู มีทองคำ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและสะท้อนข้อคิดเห็นจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารท้องถิ่น จากพื้นที่อำเภอเฝ้าระวังพิเศษ ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ หางดง สันป่าตอง สารภี สันกำแพง แม่ออน ดอยสะเก็ด และ อ.แม่ริม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมชี้แจงข้อปฏิบัติ ได้แก่ วิทยุการบินสำนักงานเชียงใหม่ และไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่ 2

นายวิรุฬ พรรณเทวี รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันที่มาคุยกันในครั้งนี้ทั้งกรมการปกครอง วิทยุการบิน และการไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการการปล่อยโคม เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ปล่อยให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับความเชื่อ วัฒนธรรม แต่ก็ต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด แม้จะขัดความรู้สึกบ้างก็ตาม ในระดับพื้นที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้นำก็ต้องกำกับดูแลลูกบ้าน ต้องช่วยกันในเรื่องนี้เพื่อให้เกิดการปล่อยให้น้อยที่สุด ก่อนที่จะเป็นปัญหาและเกิดโศกนาฏกรรม ก็ต้องฝากทั้งผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นช่วยกันในการที่จะไม่ให้เกิดปัญหา ให้ผ่านพ้นไปได้เหมือนเช่นทุกปี เพราะไม่อยากให้เกิดในสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ตามมา เพราะเรื่องนี้เป็นกฎหมายตามประกาศ คสช. หากเกิดปัญหาในพื้นที่เรื่องการละเลยละเว้นอาจจะมีตามมา

ด้านวิทยุการบินเชียงใหม่ได้ชี้แจงเกี่ยวกับความเสี่ยงของอากาศยานที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีประเด็นมีข้อแนะนำการปล่อยโคมแบบปลอดภัยใครๆ ก็ทำได้ ง่ายนิดเดียว โดยได้จัดทำเป็นเอกสารแนะนำแจงถึงอันตรายที่เกิดขึ้นบนอากาศจากการปล่อยโคมลอย โคมควัน และการจุดบั้งไฟ โดยมีสาเหตุและปัจจัยที่สำคัญคือการที่โคมจะหลุดเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบิน พร้อมกันนี้ได้มีข้อแนะนำในการที่จะปล่อยโคมต้องขออนุญาตทุกครั้งโดยขออนุญาตปล่อยในทุกอำเภอ ซึ่งอำเภอจะสอบถามและแจ้งมายังวิทยุการบิน ซึ่งจะกลายเป็นข้อมูลในการออกประกาศแจ้งเตือนนักบินให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ผ่านพื้นที่ที่มีการปล่อยโคม อีกประการโดมที่จะปล่อยควรได้มาตรฐานตามที่กฎหมากำหนด คือ จะต้องมีปริมาตรไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร

นายศรัณยู มีทองคำ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในที่ประชุมว่า ประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ประกาศใช้บังคับผ่านมาแล้ว 3 ปี ลงนามประกาศโดย นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารท้องถิ่น คงทราบเป็นอย่างดีถึงแนวทางปฏิบัติ การซักซ้อมความเข้าใจในวันนี้เพื่อทบทวนให้แนวทางปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“จังหวัดเชียงใหม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องแรก ขณะเดียวกันเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี ก็ต้องมีการส่งเสริมและสนับสนุน ในปีนี้ก็ยังยึดประกาศจังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวกับการปล่อยโคมซึ่งใช้มาแล้ว 3 ปี เป็นหลักในการปฏิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษซึ่งมีทั้งอยู่ใกล้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ อยู่ในแนวเส้นทางการบิน ซึ่งจะต้องขออนุญาตปล่อยโคมต่อนายอำเภอพื้นที่ภายใน 15 วัน และปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันที่ 22 พ.ย.61 วันสุดท้ายที่จะยื่นขออนุญาตได้คือวันที่ 7 พ.ย. 61 นี้เท่านั้น” ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว

หลักเกณฑ์สำคัญที่ประกาศจังหวัดเชียงใหม่ฯ กำหนดไว้คือ การจุดหรือปล่อยโคมลอย โคมควัน ให้กระทำได้ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 22 พ.ย. 61 และวันแรม 1 ค่ำเดือน 12 ตรงกับวันที่ 23 พ.ย. 61 โดยกำหนดให้จุดได้ในเวลา 10.00-12.00 น. เพียง 1 วันคือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 22 พ.ย.61และผู้ที่จะปล่อยโคมควัน (ว่าวฮม) ส่วนโคมลอย จุดปล่อยได้ระหว่างเวลา 19.00 น. ถึงเวลา 01.00 น. ของวันถัดไป โดยมีบทกำหนดโทษตามคำสั่ง คสช.ที่ 27/2559 คือ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ แต่ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับอนุญาตจากนายอำเภอไม่เป็นเหตุให้พ้นผิดหากการจุดและปล่อยโคมไปเกิดความเสียหายแก่อากาศยาน ชุมชนหรือประชาชน คือหากปล่อยโคมลอย โคมไฟแล้วทำให้ไฟไหม้ก็ต้องได้รับโทษตามเหตุด้วย

ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเปิดรับการขออนุญาตจุดปล่อยโคม ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดปิดการรับอนุญาต มีอำเภอที่รายงานมาที่ปกครองจังหวัดเชียงใหม่แล้ว 2 อำเภอ คือ อ.สันทราย มี 2 ราย คือที่ธุดงคสถานล้านนายื่นขออนุญาตปล่อยวันที่ 22 พ.ย. 61 จำนวนขอ 4,000 ลูก และ ที่บริเวณสวนประเพณีเชียงใหม่ ขออนุญาตปล่อยในวันที่ 22-23 พ.ย. 61 ขอปล่อยจำนวน 1,500 ลูก อีกพื้นที่คือ อ.แม่ริม มียื่นขอมา 2 รายเช่นกัน คือ ที่ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขออนุญาตปล่อยโคมในวันที่ 22-23 พ.ย. 61 โดยขอปล่อยจำนวน 12,000 ลูก และที่ลานเนินนุ่ม สนามขี่ม้า หน้าปากทางห้วยตึงเฒ่า ขอปล่อยในวันที่ 22-23 พ.ย.61 ขอปล่อยจำนวน 6,000 ลูก

ทั้งนี้ในส่วนพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งปีที่ผ่านมามีการขออนุญาตปล่อยโคมเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกตรวจพื้นที่ โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 พ.ย. 61 มีผู้ยื่อนขออนุญาตปล่อยโคมในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ จำนวน 22 แห่ง ยอดที่ขออนุญาต 3,800 ลูก