วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

ผู้ตรวจการแผ่นดินไทย – อินโดฯ ถกรับมือไฟป่าหมอกควัน แลกบทเรียนหาช่องทางรับมือ

11 ต.ค. 2018
2186

วันที่ 11 ต.ค. 61 ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นำคณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นำโดยศาสตราจารย์ แอมซูเลียน ริไฟ (Professor Amzulian Rifai) ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่และในเขตจังหวัดภาคเหนือ พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างสองประเทศ มุ่งพัฒนาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่จังหวัดภาคเหนือเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน เกิดฝุ่นควันกระจายเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ สุขภาพอนามัย และการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงทัศนียภาพและภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่อันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย โดยมักจะเกิดขึ้นภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี และก่อนการเพาะปลูกครั้งต่อไป ชาวไร่ต้องเผาเพื่อกำจัดวัสดุเหลือใช้ต่างๆ เช่น เศษหญ้า ใบไม้ รวมถึงขยะต่าง ๆ รวมถึงการเผาป่าเพื่อล่าสัตว์หรือเก็บของป่า ประกอบกับสภาพภูมิประเทศของจังหวัดเชียงใหม่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะและความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ทำให้อากาศในจังหวัดเชียงใหม่เคลื่อนตัวได้น้อย เมื่อเกิดหมอกควันขึ้นจะปกคลุมเป็นบริเวณกว้างและเป็นเวลานาน ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินเคยได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ และได้ติดตามพร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอเพื่อจะได้วางแผนบริหารจัดการแก้ไขในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

พลเอก วิทวัสฯ กล่าวต่อว่า สาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นประเทศหนึ่งที่เกิดปัญหาหมอกควันและไฟป่าบ่อยครั้ง บางครั้งลุกลามรุนแรงจนส่งผลกระทบไปยังประเทศข้างเคียง ดังนั้น ในโอกาสที่คณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อร่วมพิธีลงนามต่ออายุบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทยและผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย

“วันนี้จึงได้เชิญคณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียมาลงพื้นที่ร่วมประชุมหารือกับ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พล.ท. สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าแผนยุทธศาสตร์และแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์การบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศ ด้วยหวังจะได้พัฒนาแนวทางหรือวิธีปฏิบัติใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสิ่งแวดล้อมต่อไป” ผู้ตรวจการแผ่นดินฯ กล่าว

ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างต่อเนื่องและจริงจังมาตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ปัญหาและผลกระทบจากหมอกควันคลี่คลายและลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนพื้นที่เผาไหม้และคุณภาพอากาศ ซึ่งการพบปะหารือกันวันนี้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายอินโดนีเซียที่ประสบปัญหาลักษณะคล้ายคลึงกัน นับเป็นโอกาสอันดีและมีประโยชน์ที่ได้แบ่งปันข้อมูล วิธีการ และประสบการณ์ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื้อรังนี้ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้ และร่วมมือร่วมใจช่วยกันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการน้อมนำศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้และเผยแพร่ให้พี่น้องประชาชนเห็นถึงแนวทางที่ยั่งยืนกว่า เหล่านี้จะทำให้สุขภาพอนามัยของประชาชนดีขึ้น ตลอดจนสิ่งแวดล้อมและทัศนียภาพซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเมืองเชียงใหม่จะได้คงไว้ซึ่งความสวยงามและน่ามาเยือนของนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อไป