ละครใกล้จะจบลงแล้ว แม้จะมีบทส่งท้ายพิเศษต่อจากตอนอวสานในคืนวันพุธที่ ๑๑ เม.ย.๖๑ ที่ถือเป็นการให้ความสุขความเพลิดเพลินใจ และกำลังใจแก่ผู้ชมมาตั้งแต่วันแรก ซึ่งผ่านพ้นไปรวดเร็วมาก
มากไปกว่านั้น คือ การที่ผู้ชมได้เรียนรู้ รับรู้ ถึงคุณค่าของละครที่สร้างอันมีที่มาจากบทประพันธ์ที่มีการอ้างอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งแน่นอนย่อมมีทั้งที่เป็นความสว่างไสว รุ่งเรือง และในทางกลับกัน คือ ความโศกเศร้าเสียใจ ที่แต่ละยุคสมัยและกาลเวลาจะนำมาซึ่งความสุขความสำเร็จและความไม่สำเร็จในแง่มุมต่างๆ ที่ถือเป็นสัจธรรมของชีวิตคนทุกคนและในสังคมใดก็ตาม
แต่ที่สำคัญที่สุดแห่งการเรียนรู้ คือ ความเพียร ความซื่อสัตย์สุจริต ที่พระองค์ท่านผู้ทรงเป็นดวงใจไทยทั้งชาติ ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานสอนแก่ปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน อันถือเป็นความสุขและความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ที่ประชาชนชาวไทยได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ
ละครทางไทยทีวีสีช่อง ๓ เรื่องนี้ ข้าพเจ้าใคร่ขอกล่าวว่าเป็น “extraordinare drama” (วลีภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ละครที่มีความเป็นพิเศษยิ่ง) ที่สอนให้คนไทยมีความรักชาติ ศึกษาเรียนรู้ในพระราชกฤษฎาภินิหาร พระอัจฉริยภาพทางด้านการทูตการต่างประเทศ พระราชไมตรีจิต ความรู้รักสามัคคี ความเพียร ความซื่อตรง ไม่ทุจริตคดโกง มีความรักในเอกลักษณ์ของชาติ พูดจาไพเราะ อ่อนน้อมถ่อมตน และเป็นแบบอย่างแก่กันในความเป็นสุภาพชนตามที่บรรพบุรุษไทยได้ดำรงตนให้เห็นในคุณงามความดีมาหลายชั่วชีวิตคน
ละคร ในคำศัพท์ภาษาอังกฤษ คือ “Drama” ที่มีความหมายมาแต่ดั้งเดิม คือ เรื่องราวอันน่าทึ่ง การแสดงที่ให้ความสุข ความมีเกียรติ ความรักสมัครสมาน ความน่ารักน่าชัง กับอีกเป็นการแสดงประเภทหนึ่ง ผู้แสดงเรียกว่า “ตัวละคร” มีเวทีหรือสถานที่ใช้ในการแสดง มีบทให้ตัวละครแสดงตามบทประพันธ์ มีดนตรีประกอบอันไพเราะซาบซึ้ง มีการแต่งกายอันงดงาม ที่อาจไม่ซ้ำแบบใครในแต่ละเรื่องแต่ละตอน ฉากอันมโหฬาร การใช้ภาษาต่างประเทศในบทละครที่ถูกต้องมีความไพเราะ ความตื่นเต้นผจญภัย ความหวั่นวิตก ความเร้นลับ และแม้แต่ความเศร้าโศกเสียใจ แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะปรากฏออกมาเช่นไร ละคร หรือ “Drama” ก็คือ การแสดงที่เป็นความเพลิดเพลินแก่ผู้รับชม ตามความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้กำกับ ผู้ประพันธ์ และความทุ่มเททางการแสดงของเหล่าศิลปินดารา
ละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ ออเจ้าเอยของคนไทยดูจะช่วยเสริมสร้างความครบถ้วนบริบูรณ์ของความเป็น ‘Drama’ ที่มีความงดงามในความทรงจำของคนไทยไปอีกนาน เป็นอีกเรื่องหนึ่งทางไทยทีวีสีช่อง ๓ ต่อจากละคร ‘สุภาพบุรุษจุฑาเทพ’ ที่ให้ความประทับใจกับคนไทย เมื่อหลายปีก่อน
Written by Panadda Diskul (ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล) ประธานพิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ