จับอีกเป็นรายที่ 2 อำเภอเชียงดาวเอาจริง จับกุมผู้ฝ่าฝืนช่วง “51 วันไม่เผา” เผยยังพบคนลักลอบเผาหาของป่าล่าสัตว์ พร้อมระดมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไฟป่าที่ลุกลามข้ามชายแดน
นายศรัณยวิทย์ ทอดเสียง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง สบอ.16 (เชียงใหม่) เผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนมาตรการห้ามเผาเด็ดขาดในที่โล่ง ภายใต้นโยบาย “51วันไม่เผา เพื่อเชียงใหม่ ไร้หมอกควัน” โดยกำหนดห้วงเวลาบังคับตามมาตรการตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.61 ถึงวันที่ 20 เม.ย.61 ซึ่งถือเป็นรายที่สองที่อำเภอเชียงดาวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดงได้ทำการลาดตระเวนเพื่อเฝ้าระวังตามมาตรการดังกล่าวและทำการจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบในพื้นที่สวนมะม่วง บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว พบนายวิชัย วิจิตรธัมมาวงค์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 409 หมู่ 6 ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว กำลังเก็บกิ่งมะม่วงนำมาสุมใส่กองไฟ ทำให้เกิดหมอกควัน ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งได้ระบุเป็นการกระทำความผิด จึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พ.ต.อ.ชลเทพ ใหม่ไชย ผกก.สภ.นาหวาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายชาญศักดิ์ ผู้เจริญ หัวหน้าไฟป่าผาแดง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ไฟป่าและอุทยานแห่งชาติผาแดง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันตรวจสอบและดับไฟป่า บริเวณด่านกิ่วผาวอก ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ปรากฏว่าได้มีไฟป่าลุกลามข้ามชายแดนเข้ามาเขตประเทศไทย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันดับไฟ มีพื้นที่ป่าเบญจพรรณได้รับความเสียหายประมาณ 15 ไร่ พร้อมกันนี้ได้จัดชุดเฝ้าระวังไม่ให้ไฟป่าเข้ามายังฝั่งประเทศไทย
ด้าน นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเชียงดาว ได้มีการประชุมคณะทำงานฯ ในระดับอำเภอ สรุปพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีอาชีพเข้าป่าหาของป่า โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าป่าต้องลงทะเบียนผ่านผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และได้มีการสั่งการให้มีการจัดทำแนวกันไฟด้วยในแต่ละพื้นที่ ส่วนปฏิบัติการในปีนี้ได้ขอกำลัง อปพร. จากท้องถิ่นต่างๆ มาบูรณาการสนับสนุนในการทำงาน ทั้งการเฝ้าระวังในพื้นที่และเรื่องอื่นๆ โดยให้แต่ละ อปท. จัดค่าตอบแทนให้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ซึ่งหากพบว่ามีการฝ่าฝืนจุดไฟจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป
สำหรับปัญหาสำคัญของอำเภอเชียงดาว คือ เป็นอำเภอที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีป่าไม้ขึ้นบนภูเขาที่สูงชัน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเข้าดับไฟหากเกิดไฟขึ้น นอกจากนี้มักจะมีคนลักลอบเผา ทั้งกลุ่มที่หาของป่า ล่าสัตว์ และปรับพื้นที่ทางการเกษตร หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า และมีข้อสั่งการให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการสั่งการฯ ในระดับอำเภอ พร้อมกับให้ทุกอำเภอดำเนินการสำรวจและกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า อำเภอเชียงดาวได้บูรณาการทุกภาคส่วนที่จะต้องปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ในการรวมพลังเพื่อลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ห้ามเผาทุกชนิดอย่างเด็ดขาด ในช่วง 51 วัน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 20 เมษายน 2561 โดยผู้ชี้เบาะแสการเผาเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด จะมีรางวัลนำจับรายละ 5,000 บาท สามารถแจ้งเหตุได้ที่ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5311-2236 หรือ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารย้อนหลังได้ที่ แฟนเพจเฟสบุ๊ค “อากาศบ้านเฮา”