วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

ประชุมใหญ่วิสาหกิจผลิตอาหารสัตว์เดือด ประธานกลุ่มซัดไนท์ซาฟารี ตะบัดสัตย์!!!

04 มี.ค. 2018
2389

“ดี จัทคลักษณ์” ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 61 วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ ยังเคาะจ่ายเงินปันผลให้สมาชิกที่ร้อยละ 12 โอดยอดอาหารสัตว์โดนตัดไปเกินกว่าครึ่ง ตลอดระยะเวลา 12 ปี เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังมีปัญหาต่อเนื่อง ชี้คนมารับไม้บริหารต่อไม่เข้าใจวัตถุประสงค์การจัดตั้งที่ต้องการสร้างรายได้ให้ชุมชนรายรอบ อ้างตลอดว่าชุมชนผลิตอาหารสัตว์เองไม่ได้ยันเอกชนรายเดียวที่ไนท์ซาฟารีเอื้อให้ก็ผลิตไม่ได้เช่นกัน ย้ำชัดต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนให้ถึงที่สุด

วันที่ 4 มี.ค.61 เวลา 10.00 น. ที่ลานเอนกประสงค์บนที่ดินสาธารณประโยชน์ (ที่เลี้ยงสัตว์บ้านสันพระนอน) บ้านดอนปิน หมู่ที่ 5 ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ นายดี จันทคลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตอาหารสัตว์ พร้อมด้วยกรรมการบริหารวิสาหกิจชุมชนฯ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 เพื่อชี้แจงผลการดำเนินงาน ผลประกอบการ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตอาหารสัตว์ในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้จัดให้มีการจ่ายเงินปันผลและแจกของรางวัล โดยมีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ จากพื้นที่ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.แม่เหียะ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ กว่า 250 คน เข้าร่วมประชุม

นายดี จันทคลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ 12 ของการดำเนินของวิสาหกิจฯ ก้าวแรกของการก่อตั้งซึ่งเริ่มมาพร้อมกับการก่อตั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีราวปี 2549 ด้วยเป็นพันธะสัญญาระหว่างโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกับชุมชนในช่วงแรกเริ่มการต่อตั้งโครงการ อันเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของการก่อตั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพียง 3 ข้อ หนึ่งในนั้นระบุว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะก่อให้เกิดรายได้และการจ้างงานชุมชนรายรอบโครงการฯ

“มีการประชุมกันมากมายหลายครั้งมากเริ่มตั้งแต่ปี 2547 กระทั่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเปิดในปี 2549 การประชุมครั้งสำคัญที่สุดคือการประชุมจัดทำแผนชุมชนที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำราวปี 2548 การประชุมครั้งนั้นได้มติกำหนดแผนชุมชนออกมาทั้งสิ้น 7 แผนชุมชน โดยการผลิตนำส่งอาหารสัตว์เป็น 1 ใน 7 แผนชุมชน เป้าหมายสำคัญคือการสร้างให้เกิดรายได้ให้แก่ชุมชนรายรอบเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อันเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของโครงการ” นายดีฯ กล่าว

“การดำเนินการตลอด 12 ปี บอกได้ตามตรงว่า ปัญหาอุปสรรคเยอะมาก โดยเฉพาะปัญหากับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเอง เพราะคนเริ่มโครงการ คนเริ่มทำการก่อสร้างเป็นกลุ่มหนึ่ง เข้ามาพื้นที่ยกชุมชนเป็นที่ตั้งให้ความสำคัญกับชุมชนเป้าหมายสำคัญคือการสร้างรายได้ให้เกิดแก่ชุมชน ครั้นเปิดเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจริงๆ กลายเป็นคนอีกกลุ่มเข้ามาบริหาร คนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาไม่ยอมที่จะรับรู้ถึงการร่วมดำเนินจัดตั้งระหว่างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกับชุมชนเป็นมาอย่างไร กลายเป็นปัญหาไม่ยอมรับวิสาหกิจชุมชนในการผลิตและนำส่งอาหารสัตว์ให้แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จากแรกๆ ที่เคยส่งอาหารสัตว์ได้ทั้งหมดต่อมาถูกตัดทอนลงไปเรื่อยๆ กระทั่งวันนี้เหลือไม่ถึงครึ่งของปริมาณอาหารสัตว์ที่ส่งให้ทั้งหมด” ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าว

นายดี จันทคลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวต่อว่า ประการสำคัญที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตั้งข้อสังเกตกับชุมชนคือ การไม่เป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์ด้วยตัวเองได้ โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารเม็ด ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงและเป็นเรื่องจริงที่ใครก็ไม่อาจผลิตเองได้ เอกชนรายเดียวที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างผลิตเองไม่ได้เช่นกัน กลับได้โอกาสมากกว่าชุมชนได้จัดส่ง รายได้แทนที่จะกระจายให้สมาชิกกว่า 440 คน กลับไปตกในมือคนเพียงคนเดียว แต่ที่วิสาหกิจชุมชนมีศักยภาพเหนือกว่าคือ หญ้า กล้วย พืชผักบางชนิด มาจากสมาชิกกลุ่มและเครือข่ายของวิสาหกิจชุมชนเป็นผู้ปลูกเองแล้วนำส่งให้วิสาหกิจเป็นผู้ดำเนินการส่งให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ส่วนเอกชนไม่สามารจัดการแบบวิสาหกิจชุมชนได้

สำหรับผลประกอบการในปี 2560 ที่ผ่านมา วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตอาหารสัตว์ มีกำไรสุทธิเหลือเพียง 597,686 บาท เท่านั้น จากรายได้รวมที่ 11 กว่าล้านบาท ลดลงกว่าปีก่อนหน้านี้ที่รายได้รวมอยู่ที่ 18 ล้านกว่าบาท และยอดกำไรสุทธิราว 8 แสนกว่าบาท ทั้งนี้กรรมการบริหารวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตอาหารสัตว์ มีมติจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกกลุ่มฯ ที่ร้อยละ 12 โดยสมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ ที่ได้ประโยชน์มีจำนวนทั้งสิ้น 440 คน จากสมาชิกพื้นที่ทั้ง 4 ตำบลรายรอบโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี