ร้านกาแฟสุดแนวให้ลูกค้าจ่ายเงินค่ากาแฟ ตามความพอใจของลูกค้า ต่อรสชาติของกาแฟ ที่ลูกได้ดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่ม แก้วนั้นๆ โดยทางร้านได้นำกล่องเก็บเงินให้ลูกค้าหยอดเงิน หลังจากดื่มเครื่องดื่มก่อนกลับ ขณะที่ร้านเปิดให้บริการเพียง 10 วันต่อเดือน ด้านเจ้าของร้านเผยว่า ได้แนวคิดจากชอบชงกาแฟ จึงอยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนอื่น เมื่อคนที่ดื่มกาแฟไปแล้วรู้สึกอย่างไรกับรสชาติกาแฟก็จะจ่ายเงินตามความรู้สึกที่ได้ดื่มกาแฟแก้วนั้น
เอกสิทธิ์ รัชตะกิตติสุนทร หรือ “พี่เอก” เปิดเผยว่า ร้านกาแฟนี้มีชื่อ ร้าน a’sey a’sey crafe’ “เอเซ เอเซ คราฟเฟ่” เป็นภาษาเมียนมาร์ มีความหมายว่า “สบาย สบาย” ร้านตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 86 ถนนเชียงใหม่ – ฮอด บ้านโฮ่งมะค่า ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ก่อนจะเริ่มเปิดร้านกาแฟ ย้อนกลับไปเมื่อ 2550 ตนและครอบครัววางแผนไว้ว่า อยากจะมาใช้ชีวิตในชนบท จึงเริ่มวางแผนปลูกบ้านดิน ทำจนเสร็จ ต่อมาล่าสุด เมื่อปี 2559 จึงได้ลงมือทำไร่ ปลูกผักออแกนิก ประกอบกับที่เป็นคนชอบชงกาแฟจึงได้ทดลองเปิดบ้านให้เพื่อนๆ มาชิมกาแฟฝีมือของตน
หลังจากนั้นเริ่มมีลูกค้ามาใช้บริการ จึงอยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนอื่น ด้วยการหาเมล็ดกาแฟที่ดี ใช้วัตถุดิบที่ดี มาชงกาแฟให้กับลูกค้า ได้ดื่มอย่างมีความสุข จึงคิดว่า…เมื่อเราตั้งใจมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่น จึงอยากจะรู้ว่าคนที่ดื่มกาแฟ ที่เราชง รู้สึกอย่างไรกับรสชาติกาแฟ จึงได้ให้ลูกค้าจ่ายเงินค่ากาแฟ ตามความพอใจของลูกค้า ต่อรสชาติของกาแฟ
อย่างไรก็ตามทางร้านได้ติดราคากาแฟ และเครื่องดื่มแต่ละชนิด ในเมนูให้ลูกค้าได้เลือกชิม และจ่ายเงินตามความพอใจ ส่วนเครื่องที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งกาแฟ ชา เครื่องดื่มสมุนไพร ชามินท์ แต่ที่คอกาแฟชอบมากที่สุดคือ…กาแฟดริป
เอกสิทธิ์ เปิดเผยว่า a’sey a’sey crafe’ จะเปิดให้บริการ…เดือนละ 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-20 ทุกเดือน ส่วนที่เหลือ ตนจะใช้เวลาปลูกและดูแลผักออแกนิก และกลับเข้ากรุงเทพ เพื่อทำงานประจำ ประมาณ 10 วัน จึงกลับมาเปิดร้านกาแฟอีกรอบ ช่วงแรกๆ ที่เปิดร้านกาแฟ ลูกค้าบางคนที่เข้ามาดื่มกาแฟในร้านเสร็จ เมื่อมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ก็ทำหน้างงๆ ว่าจ่ายเงินแบบนี้ก็ได้เหรอ หลังจากเปิดได้ 3-4 เดือน การจ่ายเงินแบบนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนคุ้นเคยไปแล้ว
พี่เอก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากร้านกาแฟ แล้วทางร้านยังมีไร่ผักออแกนิก ซึ่งนำมาขายให้กับลูกค้าด้วย ผักออแกนิกที่นี่เป็นผักที่ปลูกแบบธรรมชาติปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้ปุ๋ยหมักธรรมชาติ คนปลูกผักที่นี่ไม่มีคนงานหรือลูกจ้าง แต่จะเป็น พ่อแม่ผัก เพราะเรามีแนวคิดว่าทุกคนเท่าเทียมกัน เราใช้วิธี “คนไม่รู้จักแต่มาเป็นครอบครัวเดียวกัน”
เราจึงแบ่งที่ดินในไร่เป็นแปลง แปลงละประมาณ 2 ไร่ แล้วชวนคนที่ชอบปลูกพืชผักมาอยู่ด้วยกัน และให้เขาทำในสิ่งที่เขาชอบ ซึ่งพี่สองคนเขาชอบปลูกผักอินทรีย์มีประสบการณ์หลายปี แต่มีข้อจำกัดเรื่องการขาย เราก็คิดว่า ถ้าเราให้เขาปลูกแล้วเรามาช่วยเขาขาย และแบ่งรายได้กัน โดยพี่ทั้งสองคนเขาไม่ได้รับเงินเดือนจากเรา พี่ๆ เขาใช้ความรู้ความรักในสิ่งที่ทำ ลงทุนลงแรงปลูกผักและเป็นเจ้าของผัก ส่วนเราเป็นเจ้าของที่ดินและคนขายผัก เราอยู่ร่วมกันด้วยความเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
แนวคิดเรื่อง “พ่อแม่ผัก” ของเรามีแรงบันดาลใจจาก ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ได้ทำโครงการหลวง ซึ่งแต่ละโครงการสามารถช่วยชาวบ้านได้ เมื่อพระองค์ไม่อยู่ จึงได้สานต่อแนวพระราชดำริของพระองค์ จนกลายเป็น “เอกเขนกโมเดล” ให้คนที่รักการปลูกผักมาช่วยปลูก ซึ่งในอนาคตจะมีการขยายการปลูกพืชชนิดอื่นๆ และเลี้ยงสัตว์อีกด้วย