วันอังคาร, 26 พฤศจิกายน 2567

เชียงใหม่เตรียมบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น หลังถอดบทเรียนอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ สงกรานต์โฟกัสพิเศษร้านเหล้าแหกกฎ

25 ม.ค. 2018
2079

จังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการทุกหน่วยงานร่วมถอดบทเรียนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2561 เพื่อนำข้อมูลมากำหนดแนวทางและมาตรการ เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่

วันที่ 25 มกราคม 2561 ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมถอดบทเรียนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2561 จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ส่วนราชการ หน่วยงานด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน และกำหนดแนวทาง มาตรการในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่

ทั้งนี้รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้มอบนโยบายผ่านระบบ VDO Conference เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 – 3 มกราคม 2561 เพื่อให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยสั่งการให้แต่ละจังหวัดประชุมถอดบทเรียน รวมทั้งต้องบรรจุวาระของการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนไว้ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือน เพื่อรายงานความก้าวของการปฏิบัติงาน โดยจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดแนวทางมาตรการ ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่

การประชุมในครั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญในประเด็นการเสียชีวิตที่เกิดจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และการการไม่สวมหมวกกันนิรภัย ซึ่งจากสถิติอุบัติเหตุเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังของจังหวัดเชียงใหม่ลดลง โดยสาเหตุหลักของการเสียชีวิตเกิดจากการเมาสุรา ช่วงเวลาที่มักเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ 16.00 – 20.00 น. เป็นช่วงที่มีการสับเปลี่ยนเวรยามของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ

และลักษณะถนนที่เกิดอุบัติเหตุมากที่ ได้แก่ ถนนประเภททางตรง ร้อยละ 59 เกิดจากการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด โดยได้เตรียมมาตรการที่เข้มแข็งในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ทั้งในช่วงปกติ และช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 คือ การตรวจสอบการจำหน่ายสุรา, ควบคุมกำกับดูแลสถานบริการให้เปิดปิดตามเวลา, การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในระดับท้องถิ่น เพื่อป้องปรามผู้กระทำผิดตั้งแต่ชุมชน โดยเน้นผู้ขับขี่ที่มีอาการมึนเมา และจัดให้มี 1 ท้องถิ่น 1 ถนนปลอดภัย จำนวน 210 สาย

การตั้งศูนย์ดูแลนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะดอยสำคัญ 5 ดอย, ออกประกาศเจ้าพนักงานจราจรเพื่อกำหนดเวลาขึ้นลงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ, การเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้โดยเร็ว, เพิ่มความเข้มข้นในการตั้งจุดตรวจจุดบริการ ด่านชุมชน ประกอบด้วย จุดตรวจบูรณาการ จำนวน 47 จุด จุดบริการประชาชนของหน่วยงานอื่น จำนวน 18 จุด ด่านรักษาความสงบเรียบร้อย จำนวน 6 จุด รวมถึง กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจอยู่เวรยามตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านการลดความเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม ปัญหาเกิดจากปริมาณการเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการติดขัดทางจราจร ข้อเสนอแนะ ควรมีการประกาศเจ้าพนักงานจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกบนถนนที่มีการจราจรของนักท่องเที่ยวหนาแน่น, ควรจัดรถบริการ สถานที่จอดรถแก่นักท่องเที่ยว ในด้านการลดความเสี่ยงด้านยานพาหนะ ซึ่งรถที่ประสบอุบัติเหตุส่วนมากเป็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีประกัน จึงไม่สามารถคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นควรดำเนินมาตรการกำกับดูแลความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะอย่างต่อเนื่องต่อไป กวดขันบริษัทให้บริการเช่ารถ ให้ความสำคัญกับการแนะนำนักท่องเที่ยวถึงเส้นทาง รวมทั้งกำชับให้เช่ารถแก่ผู้มีใบอนุญาตขับขี่เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ซึ่งมาจากสมาชิกของแต่ละชุมชน ในการร่วมสอดส่อง เพื่อเฝ้าระวังผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งขอให้นายอำเภอ นายกเทศมนตรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่รับผิดชอบ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจในรูปแบบเคาะประตูบ้าน เพื่อสร้างความตื่นตัวให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด

ขณะเดียวกัน ยังได้นำมาตรการตรวจปรับผู้ขับขี่กระทำผิดกฎหมายทางจราจรอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กล้อง CCTV ที่ติดตั้งไว้ในการตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งใช้ภาพที่บันทึกไว้ได้เป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด และมีการขยายผลใช้กล้อง CCTV ให้คลอบคลุมทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายของผู้กระทำผิดกฎหมายทางจราจร ซึ่งสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้เป็นอย่างดี