วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

ใช้ CCTV จับหมวกกันน็อค แค่ครึ่งวันแรกจับได้กว่า 500 ราย เตรียมรับหมายเรียกฉลองวันหวยออก

01 ก.ย. 2017
13494

เริ่มแล้ว จับนักบิดไม่สวมหมวกกันน็อค แค่ครึ่งวันพบแล้วมากกว่า 500 ราย เตรียมรับหมายเรียกมาเสียค่าปรับได้ จราจรหวังสูงให้ขาซิ่งไม่สวมหมวกเพราะแค่กลัวโดนจับ พร้อมย้ำหมวกนิรภัยสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้

วันที่ 1 ก.ย. 60 พ.ต.ท.ศุภชัย จันทรา สารวัตรกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นวันแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการเรื่องการตรวจจับผู้กระทำความผิดตามวินัยจราจร กรณีการใช้กล้องวงจรปิดตรวจจับคนไม่สวมหมวกนิรภัย ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย ซึ่งการดำเนินการในวันแรกนี้พบว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนมุมกล้องเพิ่มเติม เพื่อให้ตรวจจับและมองเห็นการกระทำผิดที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เบื้องต้นได้ใช้กล้องวงจรปิดของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 301 ตัว นำร่องในเขตพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ก่อน โดยทางเทศบาลนครเชียงใหม่จะเป็นผู้รวบรวมภาพของผู้กระทำความผิดในแต่ละวันส่งมาให้กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบกับทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ถึงนามผู้ครอบครองรถ จากนั้นก็จะเป็นการบวนการออกหมายเรียกให้ผู้ครอบครองเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบถามและเสียค่าปรับ

 

พ.ต.ท.ศุภชัยฯ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการตรวจจับหมวกนิรภัยด้วยการใช้กล้อง CCTV จะช่วยให้การเกิดอุบัติเหตุลดลงหรือไม่นั้น คงตอบได้ว่า อาจจะลดไม่ได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่มุ่งหวังคือ การให้ทุกคนมีวินัยจราจร เพราะการสวมหมวกนิรภัยเป็นการช่วยเหลือชีวิตของผู้ประสบอุบัติเหตุได้ระดับหนึ่ง จากที่จะเกิดเหตุรุนแรงก็จะเบาลง จากที่จะเสียชีวิตก็ไม่ต้องเสียชีวิต เพราะการจะห้ามไม่ให้เกิดความสูญเสียซะเลยนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะมีปัจจัยหลายประการที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ต้องดำเนินการลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้พบว่า จากที่มีการทดลองตรวจจับในช่วงเช้าของวันแรกนี้ พบมีผู้กระทำความผิดมากกว่า 500 รายแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องนำมาคัดเลือกว่าภาพไหนที่เห็นได้ชัดเจนทั้งบุคคลที่กระทำผิด และป้ายทะเบียน เพื่อลดการโต้แย้งของผู้กระทำผิด ซึ่งหลังจากนี้ใครจะคิดว่า จะใส่หมวกกันน็อคเฉพาะช่วงเช้าเพื่อไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจจับก็คงทำไมได้แล้ว เพราะมีการตรวจจับด้วยกล้อง CCTV ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะกล้องมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะดำเนินการได้ ตอนกลางคืนก็จะมีการตรวจจับโดยกล้องตรวจด้วย อีกทั้งยังเป็นการช่วยแบ่งเบาเรื่องของกำลังเจ้าหน้าที่ ที่ต้องไปตั้งด่านตรวจจับผู้กระทำความผิดด้วย เพราะกล้องวงจรปิดก็สามารถที่จะจับกุมผู้กระทำความผิดได้

จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมีสาเหตุมาจากขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายมากที่สุด โดยในปี 2559 มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 536 ราย เป็นรถจักรยานยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุ 16,187 คัน ผู้บาดเจ็บจากการไม่สวมหมวกนิรภัย 13,452 ราย และเสียชีวิตจากการไม่สวมหมวกนิรภัย 106 ราย ขณะที่ผลการสำรวจของมูลนิธิไทยโรดส์ตั้งแต่ปี 2553 – 2558 พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยพัฒนาการดีเด่นเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายจังหวัด ที่หวังจะลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน พร้อมเสริมสร้างวินัยจราจรและปลูกจิตสำนึกให้ประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญในการขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์โดยสวมหมวกนิรภัย